เมนู

วัชชีวรรคที่ 3


1. สารันททสูตร


[19] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ สารันทท-
เจดีย์ ใกล้กรุงเวสาลี ครั้งนั้นแล เจ้าลิจฉวีหลายพระองค์ด้วยกัน
พากันเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ทรงถวายบังคม
พระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว ประทับนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว
พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสกะเจ้าลิจฉวีเหล่านั้นว่า ดูก่อนลิจฉวี
ทั้งหลาย เราจักแสดงอปริหานิยธรรม 7 ประการ แก่ทานทั้งหลาย
ท่านทั้งหลายจงฟัง จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าว เจ้าลิจฉวีเหล่านั้น
ทูลรับพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสว่า
ดูก่อนลิจฉวีทั้งหลาย อปริหานิยธรรม 7 ประการเป็นไฉน คือ
ชาววัชชีจักหมั่นประชุมกันเนืองนิตย์ เพียงใด ชาววัชชีพึงหวัง
ความเจริญได้แน่นอน ไม่พึงหวังความเสื่อมเลย เพียงนั้น, ชาววัชชี
เมื่อประชุมก็จักพร้อมเพรียงกันประชุม เมื่อเลิกประชุมก็พร้อมเพรียง
กันเลิกประชุมและจักพร้อมเพรียงช่วยกันทำกิจที่ควรทำ เพียงใด
ชาววัชชีพึงหวังความเจริญ ได้แน่นอน ไม่พึงหวังความเสื่อมเลย
เพียงนั้น, ชาววัชชีจักไม่บัญญัติสิ่งที่ยังไม่บัญญัติ จักไม่ถอนสิ่ง
ที่ท่านบัญญัติไว้แล้ว ประพฤติมั่นอยู่ในธรรมของชาววัชชีครั้ง
โบราณ ตามที่ท่านบัญญัติไว้ เพียงใด ชาววัชชีพึงหวังความเจริญ
ได้แน่นอน ไม่พึงหวังความเสื่อมเลย เพียงนั้น, ชาววัชชีจักสักการะ
เคารพ นับถือ บูชาท่านวัชชีผู้ใหญ่ทั้งหลาย และจักสำคัญถ้อยคำ

แห่งท่านเหล่านั้น ว่าเป็นถ้อยคำอันตนพึงเชื่อฟัง เพียงใด ชาววัชชี
พึงหวังความเจริญได้แน่นอน ไม่พึงหวังความเสื่อมเลย เพียงนั้น
ชาววัชชีจักไม่ข่มขืนบังคับปกครองหญิงในสกุล เพียงใด ชาววัชชี
พึงหวังความเจริญได้แน่นอน ไม่พึงหวังความเสื่อมเลย เพียงนั้น,
ชาววัชชียังคงสักการะ เคารพ นับถือ, บูชาเจติยสถานของชาววัชชี
ทั้งภายในและภายนอก และไม่ลบล้างพลีกรรมอันชอบธรรม ซึ่งเคยให้
เคยทำแก่เจติยสถานเหล่านั้น เพียงใด ชาววัชชีพึงหวังความเจริญ
ได้แน่นอน ไม่พึงหวังความเสื่อมเลย เพียงนั้น, ชาววัชชีจักถวาย
ความอารักขา ความคุ้มครอง ป้องกันโดยชอบธรรมในพระอรหันต์
ทั้งหลาย เป็นอย่างดี ด้วยหวังว่า ไฉนพระอรหันต์ทั้งหลายที่ยัง
ไม่มา พึงมาสู่แว่นแคว้น และที่มาแล้ว พึงอยู่เป็นสุขเพียงใด ชาว
วัชชีพึงหวังความเจริญได้แน่นอน ไม่พึงหวังความเสื่อมเลย เพียงนั้น.
ดูก่อนลิจฉวีทั้งหลาย อปริหานิยธรรม 7 ประการนี้ จักตั้งอยู่ใน
ชาววัชชี ละชาววัชชียังปรากฏอยู่ในอปริหานิยธรรม 7 ประการ
นี้ เพียงใด ชาววัชชีพึงหวังความเจริญได้แน่นอน ไม่พึงหวังความ
เสื่อมเลย เพียงนั้น.
จบ สารันททสูตรที่ 1

วัชชีวรรคที่ 3


อรรถกถาสารันททสูตรที่ 1


วรรคที่ 3 สารันททสูตรที่ 1

มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า สารนฺทเท เจติเย ได้แก่ในวิหารมีชื่ออย่างนั้น.
ได้ยินว่า เมื่อพระตถาคตยังไม่เสด็จอุบัติ สถานที่อยู่ของยักษ์
ชื่อสารันททะ ได้กลายเป็นเจดีย์. ครั้งนั้น ชนทั้งหลายได้พากัน
สร้างวิหารถวายพระผู้มีพระภาคเจ้า ที่เจดีย์นั่นแล. บทว่า ยาวกีวญฺจ
แปลว่า ตลอดกาลเพียงไร. บทว่า อภิณฺหสนฺนิปาตา ความว่า ประชุม
กันวันละ 3 ครั้งก็ดี ประชุมกันเป็นระยะ ๆ ก็ดี ชื่อว่า ประชุมกัน
เนือง ๆ. บทว่า บทว่า สนฺนิปาตพหุลา ความว่า ชื่อว่า มากด้วยการประชุม
เพราะยุติกันไม่ได้ว่าทั้งวันวาน ทั้งในวันก่อน ๆ เราก็ประชุมแล้ว
เพื่อประโยชน์อะไรจึงประชุมกันวันนี้อีก. คำว่า วุฑฺฒิเยว ลิจฺฉวี
วชฺชีนํ ปาฏิกงฺขา โน ปริหานิ
ความจริงเจ้าลิจฉวี เมื่อไม่ประชุม
กันเนื่อง ๆ ย่อมไม่ได้สดับข่าวสาสน์อันมาในทิศทั้งหลายเลย.
แต่นั้นย่อมไม่ทราบว่า เขตแดนหมู่บ้านโน้น หรือเขตแดนนิคมโน้น
วุ่นวายกัน พวกโจรส่องสุมกันอยู่ในที่โน้น ฝ่ายพวกโจร ครั้นรู้ว่า
เจ้าทั้งหลายพากันประมาทแล้ว ก็โจรตีหมู่บ้านเป็นต้น ทำชนบท
ให้เสียหาย. ความเสื่อมเสียย่อมมีแก่เจ้าทั้งหลายด้วยอาการอย่างนี้.
แต่เมื่อประชุมกันเนือง ๆ ย่อมได้ฟังเรื่องนั้น ๆ จากนั้น ก็ได้ส่ง
กองกำลังไปกระทำการปราบศัตรู. แม้พวกโจรก็คิดว่า เจ้าทั้งหลาย
ไม่ประมาทแล้ว พวกเราไม่อาจเที่ยวไปโดยคุมกันเป็นพวก ๆ ดังนี้